เซลล์บำบัด (MSC) ช่วยลดริ้วรอย และรักษารอยแผลในผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสามารถในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวหนังดูเปล่งปลั่งอิ่มน้ำ และสดใสมากขึ้น ช่วยซ่อมแซม และฟื้นฟูผิวให้กลับมามีสภาพดีและอ่อนโยนอีกด้วย ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวหน้าที่ยกกระชับมากขึ้น นอกจากนี้ยังเร่งกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนที่สำคัญสำหรับการดูแลผิวหน้าที่สมบูรณ์ และสุขภาพดีเช่นกัน การกระตุ้นการสร้างอิลาสตินในเซลล์บำบัด (MSC) ยังมีประโยชน์อย่างมาก สารต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากการกระตุ้นนี้อาจช่วยคุณในการคืนความกระชับ และความแข็งแรงให้กับผิวหนังของคุณ
สเต็มเซลล์ เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตนเองให้กลายเป็นเซลล์ต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น เซลล์กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อหัวใจ ประสาท หรือกระดูก เป็นต้น สเต็มเซลล์สามารถพัฒนาได้จากเซลล์ต้นกำเนิดที่ยังไม่มีหน้าที่จำเพาะเจาะจง และสามารถแบ่งตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างไร้ขีดจำกัด
หนึ่งในหน้าที่สำคัญของสเต็มเซลล์คือการพัฒนา และเปลี่ยนตัวเองเพื่อเข้าทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพและตายไป นั่นหมายถึงสเต็มเซลล์จะทำงานร่วมกับระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายเราทำงานได้อย่างปกติ สเต็มเซลล์สามารถแบ่งออกตามระยะของความสามารถในการเจริญเติบโตได้เป็น 3 ประเภท
การใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาและฟื้นฟูร่างกายของเหล่านักศึกษาหรือนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงหรือโรคที่ยากต่อการรักษาเป็นต้นมีความเป็นไปได้มากขึ้นด้วยสเต็มเซลล์ ซึ่งการที่สเต็มเซลล์สามารถเข้าแทนที่เซลล์ที่เสียหายไปในร่างกาย เช่น เซลล์หลอดเลือด เซลล์ประสาท หรือเนื้อเยื่ออื่น ๆ จะช่วยให้ร่างกายเร็วกว่ากลับมาฟื้นฟูและฟื้นฟูให้สมบูรณ์ได้
สรุป สเต็มเซลล์เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อกลายเป็นเซลล์ต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่เฉพาะ สเต็มเซลล์สามารถใช้ในการรักษาและฟื้นฟูร่างกายให้สมบูรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการวิจัยและพัฒนาด้านสเต็มเซลล์เป็นเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ อนาคตของการใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาโรคหรือการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ก็น่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน
ในปัจจุบันเซลล์บำบัดที่นำมาใช้ทางการแพทย์นั้น มีแหล่งที่มาหลากหลายรูปแบบ เช่น
ข้อดีของการใช้เซลล์บำบัดจากร่างกายของเราเอง คือมีความเข้ากันได้กับร่างกายของเราดีที่สุด จึงไม่เกิดการต่อต้านจากร่างกาย แต่ข้อจำกัดของวิธีนี้คือ จำนวนเซลล์บำบัด ที่ได้จะน้อย และอาจไม่เพียงพอต่อการรักษา
ข้อดีของการรับเซลล์บำบัดจากร่างกายคนอื่น คือสามารถได้จำนวนเซลล์บำบัด ที่มากเพียงพอต่อการรักษา แต่เนื่องจากเซลล์บำบัด จากร่างกายคนอื่นอาจมีความเข้ากันได้กับร่างกายของผู้ป่วยไม่ดีเท่ากับเซลล์บำบัด จากร่างกายของเราเอง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการต่อต้านจากร่างกายได้
ข้อดีของการรับเซลล์บำบัดจากสัตว์ คือสามารถได้จำนวนเซลล์บำบัด ที่มากเพียงพอต่อการรักษา และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการต่อต้านจากร่างกายน้อยกว่าการรับเซลล์บำบัด จากร่างกายคนอื่น แต่ข้อจำกัดของวิธีนี้คือ เซลล์บำบัดจากสัตว์ อาจไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับเซลล์บำบัด จากร่างกายมนุษย์
ในวงการความงาม สามารถใช้ Mesenchymal Stem Cells (MSCs) มีเซนไคมอลสเต็มเซลล์ เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีคุณสมบัติ เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายในการรักษา และฟื้นฟูผิวหนัง ซึ่ง MSCs มีความสามารถในการแบ่งตัว และพัฒนาไปเป็นหลายประเภทของเซลล์ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวหนัง เซลล์ไขมัน เซลล์กระดูก/กระดูกอ่อน หรือเซลล์จำเพาะอื่น ๆ ทำให้เราสามารถปรับแต่งผิวหนังได้อย่างทั่วถึง
เซลล์บำบัดที่นำมาฉีดเข้าสู่ใบหน้านั้น จะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวให้ดีขึ้น ช่วยชะลอวัยได้ เนื่องจากความแก่เกิดจากปัจจัยหลักคือ เซลล์ถูกทำลายมากกว่าการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ความสมดุลภายในร่างกายเริ่มเสียหาย ส่งผลให้เกิดริ้วรอย และปัญหาผิวต่างๆ จึงมีการพัฒนาสเต็มเซลล์ขึ้นมาในรูปแบบต่างๆ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ ให้ผิวกลับมาดูเปล่งปลั่ง สดใส เป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้ง โดยมักจะมาในรูปแบบยาฉีด ซึ่งมีประสิทธิภาพในการรักษาสูงกว่า
อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยเซลล์บำบัดยังคงเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีค่าใช้จ่ายสูง และยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบวมแดง หรือการติดเชื้อได้ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา
เมสเซนไคมอลสเต็มเซลล์เป็นเซลล์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ต่างๆ ได้ และสิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ เมสเซนไคมอลสเต็มเซลล์ยังเป็น Universal Donor ซึ่งหมายถึง เซลล์เหล่านี้สามารถนำไปใช้กับผู้อื่นได้โดยไม่เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้รับ! นี่คือเหตุผลที่เรานำมาใช้ในการรักษาเซลล์บำบัด (Cell Therapy) อย่างกว้างขวาง!
เซลล์เมสเซนไคมอลยังช่วยในการสร้าง Connective Tissue ที่มีความสำคัญ ช่วยสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงการสร้างหลอดเลือดและเนื้อเยื่อไขมัน เอาให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เซลล์เมสเซนไคมอลช่วยกระตุ้นเส้นเลือดให้ไหลเวียนดีขึ้น จึงทำให้ผิวของเราได้รับสารอาหารมากขึ้น ผิวดูสดใส กระจ่างใส เปล่งประกายอย่างสมบูรณ์!
คุณสมบัติของเมสเซนไคมอลสเต็มเซลล์ (Mesenchymal Stem Cells – MSC)
เวลาสึกหรอ เมสเซนไคมอลสเต็มเซลล์สามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเองได้ เพื่อทดแทนเซลล์ที่มีสภาพไม่ดี และช่วยซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
หลังจากแบ่งตัวเพิ่มจำนวนแล้ว เซลล์เมสเซนไคมอลยังคงรักษาคุณสมบัติเดิมได้
เมสเซนไคมอลสเต็มเซลล์ยังสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ชนิดอื่นๆ ได้ เช่นเซลล์ที่เกิดการบาดเจ็บหรืออักเสบ
นับตั้งแต่ปีก่อนหน้านี้ เทคนิคการใช้เซลล์บำบัดเพื่อความงามผิวพรรณในรูปแบบการฉีด ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมาก! และจากนั้น ส่วนใหญ่ของสเต็มเซลล์ที่ใช้สำหรับเรื่องความงามเป็นเซลล์บำบัด ที่ได้จากสายสะดือครับผู้หญิง และผู้ชายทุกท่าน!
การฉีดด้วยเซลล์บำบัดนั้น เราได้ใช้สเต็มเซลล์จากสายสะดือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้โดดเด่นยิ่งขึ้นเลยทีเดียวค่ะ เพราะจริงๆ แล้วร่างกายของเรามีเซลล์บำบัดอยู่ในปริมาณน้อย จึงต้องใช้วิธีการกระตุ้นให้เซลล์เติบโตมากขึ้นโดยการเพาะเลี้ยงเสมือนกันเหมือนเลเทนกันค่ะ
การฉีดเซลล์บำบัดเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีสภาพผิวที่อ่อนแอ เนื่องจากผิวที่อ่อนแรงคงยากที่จะดูแล และฟื้นคืนให้กลับสู่สภาพที่ดีเหมือนเดิม การฉีดเซลล์บำบัดจะรักษาผิวหน้าให้แข็งแรง ชุ่มชื้น และสุขภาพดี ทำให้ผิวหน้า และปัญหาที่เกิดขึ้นบนผิวหน้าตอบสนองต่อการรักษาได้ดีขึ้น
นอกจากนั้น การฉีดเซลล์บำบัดเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการยกกระชับ การยกกระชับผิวหน้าเป็นกระบวนการที่ผู้ต้องการควรจะมีให้ความสำคัญกับการเตรียมผิวก่อน เพื่อให้ผิวหน้าแข็งแรงพร้อมที่จะรับการยกกระชับ และให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด การฉีดเซลล์บำบัดก่อให้เกิดการเตรียมผิวที่เหมาะสม ทำให้การยกกระชับผิวหน้ามีผลลัพธ์เป็นอย่างดี และยิ่งขึ้นอีกด้วย
1. ฟื้นฟูผิว
2. ฉีดข้อ
3. การปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด
4. ฟื้นฟูร่างกายโดยรวม
1. ทำความสะอาดผิวหน้า
2. ทายาชาบริเวณที่จะฉีดเซลล์บำบัด
3. ฉีดเซลล์บำบัดเข้าสู่ผิวหนัง
4. นวดเบาๆ เพื่อให้สเต็มเซลล์กระจายตัวทั่วถึง
5. พักฟื้นหลังการฉีด
การฉีดเซลล์บำบัดอาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด อาการคัน และอาการแสบร้อน ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้เองภายใน 1-2 วัน
1. แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือแพ้ยาใดๆ
2. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการฉีด
3. งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว หรือกรดผลไม้ (AHA) ก่อนการฉีด
4. งดแต่งหน้าในวันที่มาฉีดเซลล์บำบัด
1. ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเพื่อลดบวม
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดจัด
3. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
4. ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
5. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
6. งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว หรือกรดผลไม้ (AHA) หลังการฉีด
7. หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวที่รุนแรงหลังการฉีด
การฉีเซลล์บำบัดเป็นวิธีการฟื้นฟูที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ หรือมีริ้วรอยต่างๆ จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง เต่งตึง และอ่อนเยาว์อีกครั้ง
หลังจากการฉีด ผู้ป่วยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 2-4 สัปดาห์ โดยผิวจะเริ่มดูเรียบเนียน และริ้วรอยจะดูตื้นขึ้น ผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงประมาณ 3 เดือนหลังการฉีด และจะคงอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
เพราะเรารักที่จะมอบบริการให้กับลูกค้าของเรา
ดังนั้นคุณสามารถเข้ามารับบริการของเราได้ในเวลาทำการปกติ
T3 Residence ซอย นาคนิวาส 20 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
วันนี้เปิดทำการ | 09:00 – 20:00 |
หยุดตามวันหยุดราชการ
ลิขสิทธิ์ ©2024 kinwellness - สงวนสิทธิ์ทุกประการ
Powered by GoDaddy
เราาใช้คุกกี้ในการวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น เมื่อยอมรับการใช้งานคุกกี้ของเรา เราจะรวบรวมข้อมูลของคุณกับข้อมูลผู้ใช้อื่นๆ ทั้งหมด